พระมหาวุฒิชัย | ว.วชิรเมธี

[กองบรรณาธิการ]

ว.วชิรเมธี
ต้นแบบ “ธรรมะติดปีก : Active Buddhism”

วันเดือนปีเกิด
๒๙ มกราคม ๒๕๑๖

การศึกษา
ศษ.บ. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (๒๕๔๓)
พธ.ม. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (๒๕๔๖)
ป.ธ.๙ สำนักวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม (๒๕๔๓)
 
     
การทำงาน
•    อาจารย์พิเศษ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร
•    อาจารย์พิเศษ สถาบันพระปกเกล้า วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน
•    อาจารย์พิเศษและวิทยากรบรรยายพุทธศาสนากับศาสตร์ร่วมสมัย ของมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาชั้นนำของรัฐ และเอกชนมากมาย เช่น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยศรีปทุม, มหาวิทยาลัยกรุงเทพฯ,  มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย,  มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง,  มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นต้น
•    เป็นคอลัมนิสต์เขียนบทความเชิงวิชาการ กึ่งวิชาการ และบทความทั่วไปให้กับหนังสือพิมพ์และนิตยสารมากมาย เช่น เนชั่นสุดสัปดาห์ มติชนสุดสัปดาห์ ประชาชาติธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจ แพรว WE, HEALTH & CUISINE ชีวจิต ชีวิตต้องสู้ หญิงไทย แก้จน และบางกอก ฯลฯ
•    เป็นวิทยากรบรรยายธรรมและนำภาวนาตามสถาบันและองค์กรของรัฐรวมทั้งเอกชน ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดและต่างประเทศ
•    เป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตยาลัย (Vimuttayalaya Institute) : อันเป็นสถาบันเพื่อการศึกษา วิจัย ภาวนา และนำเสนอภูมิปัญญาทางพุทธศาสนาสู่ประชาคมโลก โดยเน้นปรัชญาการทำงานในลักษณะพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพโลก (Buddhism for World Peace)
•    เป็นวิทยากรประจำรายการโทรทัศน์หลายรายการ เช่น เมืองไทยวาไรตี้ (ททบ.๕) ร้านชำยามเช้า (TITV), กล้าคิดกล้าทำ (ททบ.๕), พุทธปทีป (ททบ.๕) รอยธรรมและธรรมาภิวัฒน์ (ASTV) และ ที่นี่หมอชิต (ช่อง ๗)

[กองบรรณาธิการ]

Photo: http://www.tamdee.net

"ว.วชิรเมธี" เตือนสติหนุ่มสาวอย่าให้รักขึ้นสมอง แต่ต้องรักด้วยสมอง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2551 11:19 น.

พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) พระนักเทศน์ชื่อดัง วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เตือนสติหนุ่มสาวพึงสังวรณ์ว่า อย่าให้รักขึ้นสมอง แต่ต้องรักด้วยสมอง โดยระบุว่าความรักที่แท้จริงมีอยู่ 4 ขั้น หรือ 4 มิติ มิติแรก คือ รักแบบรักตัวกลัวตาย มิติที่ 2 คือ รักแบบรักใคร่ปรารถนา ซึ่งคนในวัยหนุ่มสาว และวัยรุ่นมักอยู่ในมิตินี้ ส่วนรักแบบมิติที่ 3 คือ รักแบบเมตตาอารี และมิติสุดท้าย คือ รักมีแต่ให้ โดยเตือนสติวัยรุ่นหนุ่มสาวว่าอย่าคิดว่ารักใคร่ปรารถนานั้น เป็นที่สุดของความรัก เพราะพอผิดหวังก็จะมักจะทำสิ่งผิดๆ เช่น ลงโทษตัวเอง ฆ่าตัวตาย ไปจนกระทั่งทำร้ายแก่แค้นคนที่เคยรักให้เจ็บปวดตามตันเองไปด้วย

พระมหาวุฒิชัย จึงย้ำว่าอยากจะรักแต่อย่าให้รักขึ้นสมอง แต่รักด้วยสมอง และปัญญาจึงจะเรียกว่ารักเป็น และเป็นสุขกับความรัก

Links
+ http://multi-smart.com/modules.php?name=News&file=article&sid=63
+ th.wikipedia.org/wiki/พระมหาวุฒิชัย_วชิรเมธี 
+ สถาบันวิมุตตยาลัย
+ ดาวน์โหลดภาพขนาดใหญ่ คลิกที่นี่
+ history_wudhichai.doc