แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - กองบรรณาธิการ

หน้า: 1 ... 36 37 38 [39] 40 41 42 ... 195
571


#มารยาทไทย: การรับส่งสิ่งของผู้ใหญ่
Credit: nopakun daroj
เผยแพร่เมื่อ 27 มี.ค. 2010

572


#มารยาทไทย: การรับส่งสิ่งของ
Credit: comstree
เผยแพร่เมื่อ 21 ก.ย. 2010

574
What is that? (Τι είναι αυτό;) 2007



Credit: Constantin Pilavios
เผยแพร่เมื่อ 12 ธ.ค. 2008

Father and son are sitting on a bench. Suddenly a sparrow lands across them.

Cast
Father: Nikos Zoiopoulos
Son: Panagiotis Bougiouris

Directed by: Constantin Pilavios
Written by: Nikos & Constantin Pilavios
Director of photography: Zoe Manta
Music by: Christos Triantafillou
Sound by: Teo Babouris
Mixed by: Kostas Varibobiotis
Produced by: MovieTeller films


What is That? A Sparrow!

ชุด เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันครอบครัว
คลิป นกกระจอก ครับพ่อ ขอบคุณพี่มะอึกแห่ง OkNation

A Sparrow นกกระจอก...ครับพ่อ [พากย์ไทย]
by SHA DOW Published on 4 Dec 2012
Click :  

575
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ตำรับยาแผนไทยที่ประชาชนควรมีไว้ในตู้ยาประจำบ้าน ในราชกิจจานุเบกษาวันนี้ (9 ต.ค. 2561) แบ่งเป็นยาสำหรับใช้ภายนอก และสำหรับรับประทาน รวม 13 ชนิด ดังนี้

ยาสำหรับใช้ภายนอก มี
1. ยาไพล ใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อย
2. ยาว่านหางจระเข้ ใช้รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
3. ยาพญายอ ใช้บรรเทาอาการแมลงกัดต่อย
4. ยาบัวบก ใช้สมานแผล

ยาสำหรับรับประทาน มี
1. ยาขมิ้นชัน ใช้บรรเทาอาการแน่นจุกเสียด ท้องอืด ท้องเฟ้อ
2. ยามะขามแขก ใช้บรรเทาอาการท้องผูก
3. ยาเหลืองปิดสมุทร ใช้บรรเทาอาการท้องเสีย
4. ยาผสมเพชรสังฆาต ใช้บรรเทาอาการริดสีดวงทวารหนัก
5. ยาจันทร์ลีลา ใช้แก้ไข้ แก้ตัวร้อน
6. ยาฟ้าทะลายโจร ใช้บรรเทาอาการหวัด เจ็บคอ
7. ยาแก้ไอผสมมะขามป้อม ใช้บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ
8. ยาหอมเทพจิตร ใช้แก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย บำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น
9. ยาประสะไพล ใช้แก้ระดูไม่ปกติ บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ขับน้ำคาวปลา

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องการสนับสนุนส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

576
วิธีหยดน้ำเกลือในจมูก สำหรับทารกแรกเกิดถึง 3 เดือน


เผยแพร่เมื่อ 28 ก.ย. 2017
Facebook: https://www.facebook.com/hormoneforkids/
Line ID: @hormoneforkids http://line.me/ti/p/@oib5932k

อุปกรณ์ที่ใช้
1) นำ้เกลือ 5 ซีซี
2) ไม้พันสำลีขนาดเล็ก (cotton bud)

ขั้นตอนการทำ
1) ห่อตัวลูก
2) หยดนำ้เกลือในจมูกข้างละ 5 หยด
3) ใช้ไม้พันสำลีขนาดเล็กเช็ดขี้มูกออกมา

สามารถทำได้ตั้งแต่แรกเกิด ในกรณีที่ลูกมีอาการหายใจครืดคราด
===========================================
หมออร พญ.กัลย์สุดา อริยะวัตรกุล กุมารแพทย์ต่อมไร้ท่อ คุณแม่มือใหม่ และวิทยากรเกี่ยวกับแม่และเด็ก

577
ล้างจมูกอย่างถูกวิธี โดยหมอศิริราช :
คลิป MU [by Mahidol]

578
ประวัติ Chuck Feeney
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Chuck_Feeney

ความรวยที่ยิ่งใหญ่ !!!!

ชายชราที่ดูยากจนและแสนธรรมดา แต่สิ่งที่เขาทำ กลับทำให้มหาเศรษฐีของโลก อย่าง Bill Gates และ Warren Buffett นับถือและนำมาเป็นแบบอย่าง

Chuck Feeney ชายชราวัย 87 ปี เช่าบ้านอาศัยอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโกกับภรรยา เขาไม่เคยสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนม เขาไม่ชอบทานอาหารหรู ที่เขาชอบที่สุดคือแซนวิชชีสย่างมะเขือเทศที่ราคาแสนถูก เขาใช้แว่นตาเก่าๆ ใส่นาฬิกาธรรมดา และไม่มีรถขับ การเดินทางก็มักใช้บริการรถโดยสาร

หากคุณไปทานอาหารกับเขา เขาจะตรวจสอบบิลอย่างละเอียด หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านของเขา ก่อนที่จะเข้านอน เขาจะเตือนให้คุณปิดไฟอย่างแน่นอน

คนจนที่มัธยัสถ์เช่นนี้ คุณรู้ไหม ก่อนเขาอายุ 76 เขาได้ทำอะไรมาบ้าง?

เขาได้บริจาคเงิน 588,000,000 เหรียญสหรัฐให้มหาวิทยาลัยคอร์แนล โดยห้ามมหาวิทยาลัยไ่ม่ให้ประกาศชื่อผู้บริจาค
บริจาค 125,000,000 เหรียญสหรัฐ ให้มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย
และบริจาค 60,000,000 เหรียญสหรัฐ ให้มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ต

เขายังได้ลงทุน 1,000,000,000 เหรียญสหรัฐ เพื่อปรับปรุงมหาวิทยาลัยอีก 7 แห่ง และอีก 2 แห่งในไอร์แลนด์เหนือ

เขาจัดตั้งกองทุนการกุศล ให้ค่ารักษาพยาบาลฟรี สำหรับเด็กปากแหว่ง ในประเทศที่กำลังพัฒนา

เขาได้บริจาคเงินทั้งสิ้น 4,000,000,000 เหรียญสหรัฐ และยังมีอีก 4,000,000,000 เหรียญสหรัฐ รอที่จะบริาค

ชายชราผู้ใจกว้างมากท่านนี้ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของ DFS บริษัทดิวตี้ฟรีอันดับ 1 ของโลก เขารักการหาเงิน แต่จะใช้เงินอย่างประหยัดมาก

ขณะนี้ Chuck Feeney มีความปรารถนาว่า ก่อนปี 2016 เขาจะบริจาคเงินที่เหลือให้หมด เพื่อจะได้ตายตาหลับ ขณะนี้เงินที่เหลืออยู่ได้กระจายไปทั่วโลกให้พื้นที่จำเป็น ในอัตรา 400,000,000 เหรียญสหรัฐ ต่อปี

เขาเป็นตัวอย่างสำหรับคนรวยที่ว่า "ในขณะที่มีความสุขกับชีวิต ให้แบ่งปันความสุขนี้ให้กับผู้อื่นด้วย"

การทำการกุศลของ Chuck Feeney เป็นที่โด่งดังมาก ผู้สื่อข่าวจำนวนมากเดินทางมาถึงบ้านของเขา ทุกคนล้วนแปลกใจ และถามว่า "Chuck Feeney คุณมีทรัพย์สินมากมาย ทำไมถึงไม่ไปมีชีวิตที่สวยหรู..."

เพื่อตอบข้อสงสัยของทุกคน Chuck Feeney ยิ้มและบอกเล่าเรื่องราว:

"สุนัขจิ้งจอก พบไร่องุ่นที่เต็มไปด้วยผลไม้ อยากจะเข้าไปในไร่ เพื่อกินองุ่นให้เต็มที่ แต่มันอ้วนเกินไป เลยมุดผ่านรั้วไปไม่ได้"

"ดังนั้นมันจึงไม่กินไม่ดื่มอยู่สามวัน และแล้วตัวมันก็ผอมลง และมุดผ่านรั้วไปได้!"

"เมื่อกินอิ่มเป็นที่พึงพอใจแล้ว แต่…ตอนที่จะกลับออกไป กลับออกไม่ได้ ทำอย่างไรก็ไม่ได้ เมื่อไม่มีทางเลือก มันเลยต้องอดน้ำอดอาหาร อีกสามวันสามคืน"

"สุดท้ายแล้วท้องของมันตอนที่ออกมาก็เหมือนกับตอนที่มันเข้าไป"

 เมื่อเล่าเสร็จ Chuck Feeney กล่าวว่า

"บนสวรรค์นั้นไม่มีธนาคาร ทุกคนเกิดมากับความว่างเปล่า ในที่สุดก็ จากไปมือเปล่า ไม่มีใครสามารถนำความมั่งคั่งกลับไปได้ "

สื่อถาม Chuck Feeney ทำไมต้องบริจาคออกไปจนหมด

คำตอบของเขาง่ายมาก และไม่มีใครคาดถึง เขากล่าวว่า

"เพราะถุงศพไม่มีกระเป๋า"

ที่จริงแล้วความจนของเขา เกิดจากการบริจาคเงินมหาศาล เขาช่างเป็นคนที่ยิ่งใหญ่จริงๆ สิ่งที่เขาได้มา ได้ส่งคืนกลับไปสู่สังคมทั้งหมด มันทำให้เขามีความสุขมากกว่ามีเงินเป็นหมื่นล้านเสียอีก

แชร์มาจากเพื่อนๆ...
ขอขอบคุณผู้แปลต้นฉบับจากนิตยสาร Forbes
Cr : wellness2012
@** พระอ.สุวัฒน์

เพราะถุงศพ ไม่มีกระเป๋า และ บนสวรรค์ ไม่มีธนาคาร*จึงไปได้เพียงตัวที่ว่างเปล่าๆ !...ก็ อนัตตาอยู่แล้วมาตั้งแต่ยังไม่เกิด (exclamation)

579
วิทยากรฝึกอบรม วิทยากร.com
http://วิทยากร.com






580
ประวัติวิทยากร
รศ.สุขุม นวลสกุล
รัฐศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

Master of Science (Government & Sociology) Texas A&M University, USA.
ประกาศนียบัตรสงครามจิตวิทยา สถาบันจิตวิทยาความมั่นคง บก.สส.

    อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง (๒ สมัย)
    เคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (พลเอกเปรม ติณสูลานนท์)
    ลาออกจากราชการก่อนเกษียนเมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๒
    ตามโครงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิต หรือ Early Retire
    วิทยากรและที่ปรึกษา สถาบันฝึกอบรม มัลติ สมาร์ท


ปัจจุบันเป็นวิทยากรอิสระ รับบรรยายในสถาบันราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนหลายแห่ง
ผลงานทางวิชาการ เช่น เล่นกับคน, แม่ไม้นักบริหาร, ทีเด็ดหัวหน้า, ปากเป็นเอก, คารมเป็นต่อ, สนุกกับชีวิตพิชิตงาน, เพลินกับงานสำราญกับชีวิต ฯลฯ


ข้อมูลประวัติ
- http://sukhumn.blogspot.com
- http://shorturl.at/qBDP9

581
วิธีทำให้ Browser Google Chrome แสดงชื่อเว็บไซต์เป็นภาษาไทย เช่น "วิทยากร.com"

หากเกิดปัญหาเมื่อเข้าเว็บไซต์ที่เป็นชื่อภาษาไทย เช่น "www.http://xn--12c7b7afq2el.com" ให้ทำตามวิธีแก้ดังนี้...


- คลิกเข้าไปที่การตั้งค่า (Settings.)
- คลิกเลือกเมนู การตั้งค่าขั้นสูง (Advanced Settings.)
- มองหาเมนูภาษา (Language)
- กดปุ่ม การตั้งค่าการป้อนข้อมูลภาษา (Language input settings)
- กดปุ่ม เพิ่ม (add)
- คลิกเลือกภาษาไทย (Thai)
- กดปุ่มเรียบร้อย (Done)
- ทดลองเปิดเว็บไซต์ที่มีชื่อภาษาไทย เช่น www.วิทยากร.com


Tag : วิทยากร.com, IDN URL , ชื่อเว็บภาษาไทย , domain thai , show url thai , google chrome

582
วัฒนา วาทะพล

อดีต

- ประธานชมรมปาฐกถาและโต้วาที ประจำปีพุทธศักราช 2534

- ชนะเลิศการพูดสุนทรพจน์ ประจำปีพุทธศักราช 2537

- ชนะเลิศรางวัลนักพูดยอดเยี่ยมและนักโต้วาทีดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช 2538

- Training Manager ห้างสรรพสินค้า Nicewell Department Store and  Plaza จำกัด ปีพุทธศักราช 2538-2539

- Training Manager บริษัท Post Express จำกัด ปีพุทธศักราช 2547-2548

- HR & Training Manager บริษัท Leowood Intertrade Co., Ltd. ปีพุทธศักราช 2548-2549

- HRD Manager บริษัท Wattana Phanit Printing and Publishing จำกัด ปีพุทธศักราช 2549-2550

- HRM Manager บริษัท Training Hall จำกัด ปีพุทธศักราช 2551-2555


การศึกษา

ปริญญาโท Master of Public Administration (M.P.A) Major Public Administration : Mahachulalongkorn University

ปริญญาตรี Business Administration (B.B.A.) Major General Management : Ramkhamhaeng University


เกียรติประวัติ

- ชนะเลิศการพูดสุนทรพจน์ ประจำปีพุทธศักราช 2537

- ชนะเลิศรางวัลนักพูดยอดเยี่ยมและนักโต้วาทีดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช 2538

- รางวัลนักเขียนโครงการสะพานสายรุ้ง ประจำปีพุทธศักราช 2545

- TALK SHOW ก้าแกร่งแห่งนักขาย


ปัจจุบัน

- HRM & HRD Manager สถาบันฝึกอบรม FIT Pro

- ที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาองค์กร (Organization Development Advisor) Junsuwan Moji

- เจ้าของ POCKET BOOK ขยับปาก (กา) เพื่อชาติ

- วิทยากรรับเชิญบรรยายในภาครัฐและเอกชน

ชื่อวิทยากร

- อาจารย์วัฒนา วาทะพล



...
เครดิต: วิทยากร.net

583
ทำความดีมีความสุข | www.Tum-D.com / #รวมเพลงวันแม่
« เมื่อ: สิงหาคม 09, 2018, 12:25:27 PM »
ขอมอบเพลงต้อนรับ เดือนแม่ค่ะ

หนึ่งเดียวคือแม่


ค่าน้ำนม (เด็ก)


อิ่มอุ่น


ใครหนอ (เด็ก)


คำว่าแม่ (เด็ก)


พระคุณแม่ (เด็ก)


รักแม่เท่าฟ้า(เด็ก)


เรารักแม่


คิดถึงแม่


รักแม่ คือหัตถาครองพิภพ


แม่ (เสก โลโซ)

584
ซ่อมสูบลมที่ใช้กันทั่วไป สูบยางรถ
Credit: Narin Sroymano
เผยแพร่เมื่อ 29 ธ.ค. 2016
การซ่อมง่ายๆ ด้วยตัวเอง กับสูบลมที่ใช้กันทั่วไป ใช้สูบรถจักรยาน มอร์เตอร์ไซค์ หรือถ้าจำเป็นจริงๆก็สูบรถยนต์ก็ได้แต่เหนื่อยกันหน่อย หรือใช้เป่าก็ยังได้


585
ทำความดีมีความสุข | www.Tum-D.com / ABC Four Conner : Thailand Cave Rescue
« เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2018, 07:40:36 PM »
ThaiArmedForce.com : #TAF:

 (Link: )

ABC ออสเตรเลีย สัมภาษณ์ทีมกู้ภัยออสเตรเลีย อังกฤษ และสหรัฐ #พาทีมหมูป่ากลับบ้าน เผยนาทีที่ขออนุมัติแผนจากรัฐมนตรีของไทยซึ่งทุกคนเตรียมใจไว้ว่าน่าจะต้องมีผู้เสียชีวิตในระหว่างการดำน้ำออกมาราว 3 - 4 คน อันนี้ยาวที่สุดแต่ค่อนข้างละเอียดที่สุดแล้ว แนะนำอ่านเหมือนเดิมครับ

ABC (ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นคนละช่องกับ ABC ของสหรัฐ) ทำสารคดีเรื่องการกู้ภัยที่ถ้ำหลวงในรายการ Four Corners โดยมีไฮไลต์คือการสัมภาษณ์นักดำน้ำอังกฤษ ผู้บังคับทีมช่วยเหลือของสหรัฐ และคู่ดำน้ำของ Dr. Richard Harris ชาวออสเตรเลีย

Jason Mallinson นักดำน้ำในถ้ำชาวอังกฤษที่เราน่าจะจำกันได้ให้กล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งในภารกิจที่ยากที่สุด อันตรายที่สุด และเสี่ยงที่สุดที่เขาเคยทำ ไม่ใช่ในแง่ของความปลอดภัยของเขา แต่เป็นในแง่ของความปลอดภัยของคนที่เขาจะต้องรับผิดชอบ เขาไม่เคยทำอะไรที่เสี่ยงขนาดนี้มาก่อน และคิดว่าคงจะไม่ต้องทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว แต่นั่นเป็นทางเลือกเดียวในตอนนั้น

เขาเสริมว่าตัวเขาเองมั่นใจว่าจะพาตัวเองออกมาได้ มั่นใจว่าจะเชือกนำทางจะไม่หลุดมือ มั่นใจว่าจะนำเด็กออกมาได้ แต่เขาไม่มั่นใจ 100% ว่าเด็กที่นำออกมาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่

เช่นเดียวกับนาวาอากาศตรี Charles Hodges ของกองทัพสหรัฐ ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมกู้ภัยของสหรัฐที่ทำหน้าที่รับเด็กจากนักดำน้ำและตรวจสอบสุขภาพเด็กในโถง 3 กล่าวว่า ความเป็นไปได้ที่ภารกิจนี้จะสำเร็จนั้นต่ำมากเท่าที่จะนึกออก เขาทำใจไว้ว่าอาจจะต้องมีเด็ก 3 4 หรือ 5 คนที่เสียชีวิตในระหว่างการกู้ภัย และเขาก็บอกกับท่านผู้ว่าไปว่าเขามั่นใจว่ามีโอกาสที่ภารกิจจะสำเร็จ 60 - 70%

เขายังเผยว่าการดำน้ำพาเด็กออกมานั้นเป็นทางเลือกสุดท้ายจริง ๆ แต่ถ้าให้เด็กอยู่ในนั้นเป็นเวลา 4 - 5 เดือน และประมาณการว่าจะต้องเตรียมอาหารแห้งให้เด็กขั้นต่ำสุดวันละ 1 มื้อ เท่ากับจะต้องเตรียมอาหารถึง 1,800 มื้อเป็นอย่างน้อยเข้าไปข้างใน ซึ่งไม่มีที่พอในถ้ำ และจะต้องใช้การดำน้ำเข้าออกถึง 18 เที่ยว ดังนั้นการให้เด็กรอคนหมดหน้าฝนจึงเป็นทางเลือกที่เป็นไปไม่ได้ ยิ่งเมื่อพิจารณาจากฝนที่กำลังเข้ามาซึ่งอาจทำให้นักดำน้ำไม่สามารถส่งอาหารได้ครบตามที่คำนวณไว้

เขาเสริมว่าเขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ไม่เพียงแต่มันจะเป็นข่าวดี แต่เด็ก ๆ ยังได้กลับไปพบผู้ปกครอง และนั่นคือสิ่งสำคัญที่อยู่ในใจของเขา

และหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญก็คือ Dr. Richard Harris และคู่บัดดี้ดำน้ำคือ Craig Challen ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบสุขภาพเด็ก ๆ และให้ยาระงับอาการตกใจก่อนที่จะนำเด็กออกมา รวมถึงประเมินสุขภาพเด็กตลอดทาง ซึ่งเขาเป็นฟันเฟืองสำคัญในความสำเร็จของภารกิจนี้

Jason Mallinson ยังบอกอีกว่าถ้าไม่มี Dr. Richard Harris ภารกิจนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ เพราะเขาอยู่กับเด็ก ๆ พูดกับเด็ก ๆ ทำให้เด็กสงบลง ด้วยความเชี่ยวชาญจากการเป็นแพทย์ฉุกเฉิน (คุณหมอ Harris เป็นแพทย์ในบริษัท medSTAR ซึ่งเป็นบริษัทขนย้ายผู้ป่วย - ผู้แปล)

ส่วนคู่บัดดี้ของคุณหมอคือ Craig Challen เผยว่าพวกเขาเกือบพลาดรับโทรศัพท์จากรัฐบาลไทยที่โทรมาขอความช่วยเหลือ เพราะเขาจัดกระเป๋าเตรียมไปเที่ยวทุ่ง Nullarbor ในออสเตรเลียใต้เรียบร้อยแล้ว แต่กลับกันพวกเขาต้องรื้อของทุกอย่างออก เตรียมอุปกรณ์ดำน้ำให้พร้อม และไปสนามบินภายใน 45 นาที

ทั้งสองเดือนทางมาถึงถ้ำหลวงในวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ จ่าเอกสมาน กุนัน (ยศในขณะนั้น) เสียชีวิต เมื่อถูกถามว่าข่าวการเสียชีวิตของจ่าเอกสมานทำให้ตระหนักถึงอันตรายของภารกิจมากขึ้นหรือไม่ Craig Challen กล่าวว่า ไม่ต้องสงสัยว่านี่เป็นภารกิจที่อันตราย แต่เราซึ่งเป็นนักดำน้ำในถ้ำนั้นสามารถดูแลตัวเองได้เพราะนี่คือสิ่งที่เราทำมาตลอด แต่สำหรับคนอื่น ๆ และ #หน่วยซีล ของ #กองทัพเรือไทย ซึ่งแม้จะเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถสูงมากแต่นี่ไม่ใช่สภาวะแวดล้อมที่พวกเขาคุ้นเคยและได้รับการฝึกมา

นาวาอากาศตรี Charles Hodges เสริมว่าเมื่อจ่าเอกสมานเสียชีวิต ทุกคนพักภารกิจ ถอยออกมา และมาประเมินความเสี่ยงกันใหม่ว่ามีความเสี่ยงใดที่ยอมรับได้ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ตระหนักว่ามันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะสุดท้ายก็ยังมีเด็ก ๆ และโค้ชที่ต้องช่วยออกมาอยู่ดี ดังนั้นยังไงเราก็ต้องเดินหน้าต่อ ดังนั้น แม้ว่าการเสียชีวิตของจ่าเอกสมานจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและในใจของเขาก็ระลึกว่าจ่าเอกสมานคือวีรบุรุษของคนไทยและคนทั้งโลก แต่พวกเขาก็รอช้าไม่ได้ และพวกเขาจะไม่ปล่อยให้การเสียชีวิตของจ่าเอกสมานต้องสูญเปล่า

หลังจากการค้นพบเด็ก ๆ แล้ว ทีมกู้ภัยทุกคนเริ่มรู้ตัวลึก ๆ ว่าการนำเด็กออกมาด้วยการดำน้ำคงต้องเป็นทางเลือกเดียว ทางหน่วยซีลของไทยได้เข้าพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของไทยเพื่ออธิบายให้ท่านฟัง รวมถึงทีมกู้ภัยทั้งหมดที่อธิบายแผนการเป็นขั้นเป็นตอนให้กับท่านรัฐมนตรีฟัง ซึ่งตัวนาวาอากาศตรี Charles Hodges มั่นใจว่าแผนจะได้รับการอนุมัติเพราะเขาเชื่อว่าแผนการนี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี

นาวาอากาศตรี Charles Hodges กล่าวกับท่านรัฐมนตรีว่า ท่านครับ โลกทั้งโลกกำลังดูเราอยู่ เรามีเด็ก 12 คนและโค้ชติดอยู่ในถ้ำ และเรามีความรู้สึกร่วมกับเหตุการณ์เป็นอย่างมาก แต่โชคร้ายที่ในสถานการณ์แบบนี้เราจะไม่ใช้อารมณ์ ดังนั้นเราตัดสินใจทุกอย่างด้วยเหตุและผลและพยายามเอาอารมณ์ออกทั้งหมด และตอนนี้สถานการณ์มาถึงจุดที่เหลือทางเลือกเพียงทางเลือกเดียว และถ้าไม่ตัดสินใจที่จะดำน้ำพาเด็กออกมา สถานการณ์จะกลายเป็นผู้ตัดสินใจให้เราแทน

เขาคิดว่าท่านรัฐมนตรีเข้าใจในเหตุและผล ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานหน่วยซีลของไทยก็มาบอกกับเขาว่า แผนการทั้งหมดได้รับการอนุมัติและเราจะเดินหน้าทันที

พันจ่าอากาศเอก Derek Anderson หนึ่งในนักดำน้ำจากกองทัพอากาศสหรัฐกล่าวว่า หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มฝึกกันในสระน้ำที่ได้รับอนุเคราะห์จากโรงเรียนละแวกนั้น และได้เด็ก ๆ มาเป็นตัวอย่างฝึก การฝึกเริ่มจากง่าย ๆ และใช้อุปกรณ์จำลอง และเป็นการฝึกความเข้าใจก่อนที่จะเริ่มใช้อุปกรณ์จริง และเด็กตัวอย่างจริง ซึ่งก็จะเริ่มฝึกจากการใส่อุปกรณ์ให้เด็ก การนำเด็กดำน้ำ การส่งผ่านเด็กไปยังนักดำน้ำคนอื่น และพยายามลงรายละเอียดไปเรื่อย ๆ จนมั่นใจว่าทุกคนได้ฝึกมากที่สุดเท่าที่ทักษะของตนจะมี ทุกคนได้ฝึกร่วมกัน และทุกคนจะทำให้ดีที่สุดแม้ว่าจะมีความเสี่ยงมากก็ตาม

จุดเล็ก ๆ อย่างข้อความของเด็ก ๆ ที่ Jason Mallinson เกิดไอเดียให้เด็ก ๆ เขียนออกมาให้ผู้ปกครองได้กลายเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สร้างกำลังใจชั้นดีที่ทำให้ทีมกู้ภัยมั่นใจมากขึ้น Jason Mallinson ยังย้ำถึงความกล้าหาญที่น่าทึ่งของเด็ก ๆ ที่เมื่อพวกเขาอธิบายแผนการให้เด็ก ๆ ฟัง ไม่มีใครเลยที่แสดงอาการตกใจหรือร้องไห้ เด็ก ๆ ยอมปฏิบัติตามภารกิจทั้งหมด ซึ่งมันน่าทึ่งมากเมื่อเทียบกับอายุของพวกเขา

Craig Challen เสริมอีกว่าในบ่ายวันเสาร์ เขาและหมอ Harris เข้าไปตรวจสอบเด็ก ๆ และพบว่าพวกเขามีกำลังใจดีมาก โดยหน่วยซีลทั้ง 4 นายที่อยู่กับเด็ก ๆ ทำหน้าที่ได้ดีมากในการเสริมกำลังใจให้เด็ก ๆ ดังนั้นทุกอย่างดูพร้อมมาก แม้ว่า Jason Mallinson จะซ่อนความกังวลไว้ข้างในว่า ถ้าฝนจะตกหนักอย่างที่พยากรณ์ไว้จริง ทุกอย่างมันจะยิ่งยุ่งยากขึ้นก็ตาม

และนั่นเป็นปัจจัยที่ทำให้ท่านผู้ว่าตระหนักว่าปฏิบัติการจะต้องเริ่มภายในวันอาทิตย์นั้น และท่านก็ประกาศวัน D-Day นักดำน้ำต่างชาติ 13 คนพร้อมหน่วยซีลของไทย 5 คนเริ่มดำน้ำเข้าไปหาเด็ก ๆ

เช่นเดียวกับการแถลงข่าวของทีม #หมูป่า ที่คงจะได้ฟังกันไปแล้ว นักดำน้ำออสเตรเลียบอกว่าผูุ้ที่ตัดสินใจว่าใครจะออกมาเป็นกลุ่มแรกคือเด็ก ๆ และหน่วยซีลของไทย โดยพวกเขารอรับการตัดสินใจเท่านั้น หลังจากนั้น เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการดำน้ำของเด็ก ๆ อุปสรรคทางภาษา และอายุของเด็ก ๆ ทำให้ทุกคนตัดสินใจที่จะต้องทำทุกอย่างให้เด็ก ๆ โดยเด็ก ๆ ไม่ต้องทำอะไร

พันจ่าอากาศเอก Derek Anderson จากกองทัพอากาศสหรัฐกล่าวว่าทีมกู้ภัยแบ่งถ้ำออกเป็น 9 โถง ในส่วนที่ซับซ้อนที่สุดจะเป็นหน้าที่ของนักดำน้ำอังกฤษซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี ในส่วนอื่น ๆ ก็จะแบ่งกันไปตามความเชี่ยวชาญและทักษะของแต่ละคน เรื่อยไปจนถึงคนเกือบ 150 คนที่รับผิดชอบตามจุดต่าง ๆ ตั้งแต่โถง 9 จนถึงหน้าถ้ำ ทุกคนทำงานกันเป็นทีมเดียวกันแต่มีหน้าที่ต่างกัน

Jason Mallinson หนึ่งในนักดำน้ำอังกฤษที่รับหน้าที่พาเด็ก ๆ ดำน้ำออกมากล่าวว่าในวันแรก ๆ ทัศนวิสัยยังดีอยู่ แต่ในวันสุดท้ายเขามองไม่เห็นอะไรเลย นั่นทำให้พวกเขาเหนื่อยมากในแง่ของจิตใจ

Dr. Richard Harris จะดำน้ำมากับเด็ก ๆ ในช่วง 350 เมตรแรก และเมื่อมาถึงช่วงแห้งที่ยาว 200 เมตร Craig Challen จะรับหน้าที่ถอดหน้ากากของเด็ก ๆ ออก ตรวจสอบอุปกรณ์ และพาเด็ก ๆ สไลด์ข้ามเนินดินไปจนถึงช่วงที่จะต้องดำน้ำอีกครั้ง ใส่อุปกรณ์ และพากลับลงน้ำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าถ้าจะต้องใช้นักดำน้ำ 2 คนต่อเด็ก 1 คนมันจะต้องใช้เวลานานมาก สุดท้ายก็เลยกลายเป็นการดูแลหนึ่งต่อหนึ่ง

และก็จะมีช่วงแห้งที่เป็นช่วงสูงชันที่จะต้องแขวนเด็กเอาไว้บนเชือกกู้ภัยและค่อย ๆ พาเด็กไปราว ๆ 150 เมตร เพราะมันอันตรายเกินไปที่จะให้เด็กลงเดินและข้ามช่วงสูงชันนั้น โดยเด็ก ๆ จะถูกแขวนด้วยเชือกแขวนที่ปรับปรุงพิเศษเพื่อการนี้ Jason Mallinson เสริมว่าจะมีช่วงที่ต้องดำน้ำขึ้นตรง ๆ ซึ่งนักดำน้ำไม่มีทางรู้ว่าจะถึงช่วงนั้นเมื่อไหร่จนกว่าจะเอาหัวโขกกับผนังถ้ำ ซึ่งเมื่อมันเกิดขึ้น นักดำน้ำก็จะรู้ว่าจะต้องดำขึ้นตรง ๆ ไปตามช่องแคบ ๆ นักดำน้ำต้องลองว่าจะพาเด็กกับนักดำน้ำไปพร้อมกันได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ต้องถอย และลองให้นักดำน้ำดำคนเดียวดู ถ้าไม่ได้ก็ต้องถอย ลองดันเด็กไปตามช่องดู ถ้าไม่ได้ก็ต้องถอยอีก มันเป็นกระบวนการที่กินเวลานานและน่ากลัวมาก เพราะถ้าเกิดดันเด็กไปชนผนังถ้ำและกระแทกหน้ากากของเด็ก ๆ หลุด เด็กก็จะต้องเสียชีวิต หรือถ้านักดำน้ำทำเชือกนำทางหลุดมือ พวกเขาก็จะตกอยู่ในอันตรายมาก

แต่เมื่อทุกคนพาเด็กสี่คนแรกออกมาได้ทุกคนก็ทั้งโลงใจและรู้สึกหมดแรงในเวลาเดียวกัน แต่ความกดดันก็ยังมีอยู่เพราะทุกคนรู้ว่าฝนกำลังมาแล้ว และนั่นไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงลดลงเลย พันจ่าอากาศเอก Derek Anderson กล่าวว่ามันจึงเป็นการฉลองสั้น ๆ หลังจากนั้นทุกคนก็ต้องกลับไปตั้งสมาธิ ทำตัวเป็นมืออาชีพ เพราะทุกคนรู้ว่านี่เป็นความสำเร็จเล็ก ๆ ในภารกิจที่ใหญ่กว่า และรู้ว่าถ้าฝนตกลงมาก่อนหน้าที่คาดไว้แม้เพียงนิดเดียว ภารกิจกู้ภัยจะต้องยุติลง เพราะมันจะเสี่ยงมากเกินไปต่อทั้งเด็ก ๆ และนักดำน้ำเอง และแม้เด็กชุดที่สองจะออกมาสำเร็จซึ่งหมายถึงความสำเร็จ 8 ครั้งจากความพยายาม 8 ครั้ง มันก็ไม่ทำให้พวกเขาเบาใจลง

เขาจำได้ว่าหลังจากวันที่สอง เขาเข้าไปบอกกับนักดำน้ำอังกฤษว่า พวกคุณสุดยอดอย่างกะ Rock Star และนี่จะต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์แน่นอน

ในภารกิจวันสุดท้าย Dr. Richard Harris เลือกที่จะอยู่กับเด็ก ๆ และหน่วยซีลของไทยเป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่ง Craig Challen บอกว่าทำงานของหมอ Harris ว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ

นาวาอากาศตรี Charles Hodges เล่าถึงช่วงสุดท้ายของภารกิจว่า เมื่อคุณรู้ว่าเด็ก ๆ ออกมากันหมดแล้ว หน่วยซีลของไทยออกมากันแล้ว ในตอนสี่ทุ่มที่ทุกคนยืนอยู่ตรงนั้นทุกคนก็ปล่อยให้อารมณ์กลับเข้ามาในจิตใจอีกครั้ง มันรู้สึกได้ว่าทุกคนได้ทำอะไรสักอย่างสำเร็จ ทุกคนที่มาจากต่างที่กันมาทำงานด้วยกัน และโลกก็เฝ้ามองอยู่ Craig Challen เสริมว่าเขารู้สึกโลงมาก แต่หน่วยซีลของไทยยังมีงานต้องจัดการ ดังนั้นเขาจึงออกมากันช้ากว่า 2-3 ชั่วโมง

ซึ่งนั่นก็ทำให้มีเรื่องดราม่าในตอนสุดท้ายของภารกิจจนได้ พันจ่าอากาศเอก Derek Anderson สารภาพตามตรงว่ามันอาจจะเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ ณ วินาทีนั้นปั้มน้ำหนึ่งตัวในโถง 3 เสีย และยังมีคนอีกจำนวนหนึ่งรอรับหน่วยซีลกลุ่มสุดท้ายให้ออกมา เมื่อได้รับแจ้งว่าระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนตื่นเต้นมาก แต่สุดท้าย ทุกคนออกออกมาได้อย่างปลอดภัย

Craig Challen บอกว่านักดำน้ำได้ไปเยี่ยมเด็ก ๆ ที่โรงพยาบาลหลังจากนั้น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เด็ก ๆ นั่งกินอาหารกันอย่างมีความสุข พวกเราไม่สามารถบรรยายได้ว่าพวกเรามีความสุขมากขนาดไหน เพราะตอนแรกทุกคนคาดว่าภารกิจนี้จะเป็นภารกิจกู้ศพแทนที่จะเป็นภารกิจนำผู้ป่วยออกมาทั้ง ๆ ที่ยังมีชีวิต เขายังต้องถามตัวองว่าสิ่งนี่มันเป็นความจริงหรือเปล่า เพราะมันดูเหมือนจะดีเกินกว่าที่จะเป็นความจริง

เรืออากาศเอก Jessica Tait มาเสริมเป็นคนสุดท้ายว่า เธอจำได้ว่าเมื่อมาถึงที่ถ้ำใหม่ ๆ มีใครในทีมบางคนที่แม้จะเป็นคนที่แข็งแกร่งมากบ่นว่า เขาไม่รู้ว่าแม้แต่ตัวเขาเองจะมีชีวิตรอดจากเหตุการณ์แบบนี้ได้ไหม แต่นี่เป็นแค่เด็ก ๆ เท่านั้น และสำหรับเธอ มันแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะมีชีวิตรอดของเด็ก ๆ และโค้ชที่คอยนำเด็ก ๆ ให้รอดชีวิตได้ คนพวกนี้คือผู้ที่กล้าหาญและเธอรู้ว่าเหตุการณ์นี้จะต้องถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์สำหรับความกล้าหาญของพวกเขา / TAF แปล

#พาทีมหมูป่ากลับบ้าน #ถ้ำหลวง #ThaiCaveRescue

หน้า: 1 ... 36 37 38 [39] 40 41 42 ... 195