แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - กองบรรณาธิการ

หน้า: 1 ... 39 40 41 [42] 43 44 45 ... 117
616



กรุงเทพธุรกิจจัดอบรม 'กลยุทธ์การวางแผนภาษีของ SMEs ทั้งระบบ'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กรุงเทพธุรกิจเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมหลักสูตร “กลยุทธ์การวางแผนภาษีของ SMEs ทั้งระบบ”

เนื้อหาการอบรม

SMEs ในสายตาของกรมสรรพากรมีความหมายเพียงใด ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร วางแผนภาษีกันอย่างไร  เมื่อ SMEs อยากเสียภาษีให้ถูกต้อง

o ทำภาษีอย่างไรให้ง่ายมากๆ แต่ยากนิดเดียว
o เริ่มจากธุรกิจครอบครัวคนเดียว หุ้นกับพี่ น้อง เพื่อนฝูง กับการวางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคล
o ตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด กับการวางแผนภาษีเงินได้นิติบุคคล
เมื่อ SMEs ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำอย่างให้ได้ประโยชน์สูงสุดทางภาษีอากร
o เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม  กับไม่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม อย่างไหนดีกว่ากัน แล้วเลือกได้ไหม
ทำภาษีมาตั้งนานหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ไม่ถูกสักที  ช่วยบอกหน่อย
เมื่อ SMEs สนใจแต่ธุรกิจ แต่ไม่สนใจ “ภาษี”
o จริงหรือที่เค้าว่า “ภาษี” จะเลี่ยงเมื่อก็ได้ใครจะรู้ จ้างใครทำก็ได้ไม่มีปัญหา
o จะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เราจ้างมาทำภาษีให้เก่งภาษีจริง
o เสียภาษีแพงๆ ไว้ก่อนแล้วจะไม่ถูกตรวจสอบจริงหรือ


SMEs กับการจ่ายสวัสดิการพนักงาน ให้ได้ประโยชน์ทางภาษีอากร
o ขึ้นค่าจ้าง จ่ายโอที โบนัส รางวัลพนักงานดีเด่น
o ให้เครื่องแบบพนักงาน รักษาพยาบาลพนักงานและครอบครัวฟรี
o จัดอบรม ให้ทุนพนักงานเรียนต่อ ฯลฯ

SMEs กับการวางแผนส่งเสริมการขาย ทั้งระบบ
o ลด แลก แจก แถม ของขวัญ ของชำร่วย สินค้าตัวอย่าง
o รางวัลชิงโชค  รางวัลตามเป้า ฯลฯ

รู้หรือยัง กับสิทธิประโยชน์ทางภาษีมากมายที่ SMEs ได้รับ
ปัญหาหนักอกเมื่อ SMEs เจอสรรพากร
o พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง จะทำอย่างไรดีเมื่อถูกสรรพากรตรวจสอบ
o ขอคืนภาษีก็ถูกตรวจ ไม่ขอคืนภาษีก็ถูกตรวจ
o อยากเสียภาษีให้ถูกต้อง แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ถาม 3 คน ตอบ 3 อย่าง
o คณะบุคคลกับห้างหุ้นส่วนสามัญ ยังใช้วางแผนภาษีได้อยู่หรือเปล่า
o จะลงรายจ่ายอย่างไรให้ถูกต้อง ไม่ถูกสรรพากรบวกกลับ
o ภาษีมูลค่าเพิ่ม จ่ายแล้วขอคืนได้เลย เค้าทำกันอย่างไร สรรพากรจึงยอมรับ
o เทคนิคทำอย่างไรไม่ให้เจอภาษีซื้อต้องห้าม หรือรายจ่ายต้องห้าม
o การบริจาคให้ได้ประโยชน์สูงสุดทางภาษีอากร
o ฃการใช้สิทธิประโยชน์ลงรายจ่ายได้ 2 เท่าทางภาษีอากร
o สิทธิประโยชน์ตามกฎหมายใหม่ถึงปัจจุบัน


อัตรา 3,000 บาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
วันพุธที่ 5 ตุลาคม 2554
เวลา 09.00 – 16.30 น.
ณ โรงแรมสยาม @ สยาม
โทร. 0-2338-3705-7, 08-6313-1903
กรอกใบสมัครออนไลน์ที่ http://goo.gl/LHq2q
www.facebook.com/Panyaturakij

-----------
+ www.facebook.com/TrainingSmart
+ www.TrainingSmart.net & www.Training-Th.com

617
เบญจภาคี เหรียญดีพระเกจิ 

    ชุดพระเครื่อง เบญจภาคี อันมีพระเครื่องหลักยอดนิยม ประกอบด้วย พระสมเด็จวัดระฆัง พระลีลาเม็ดขนุน(ซุ้มกอ) พระรอด พระผงสุพรรณ และพระนางพญา นั้นก็ได้มีการจัดเบญจภาคีชุดเหรียญพระเกจิอาจารย์ ตามไปด้วย ซึ่งชุดเบญจภาคีเหรียญชุดแรก เขาจัดเรียงตามลำดับของความนิยม นั้นก็มีดังนี้

1. เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
2. เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม
3. เหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
4. เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม
5. เหรียญหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่


เหรียญหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม


เหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง


เหรียญหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า


เหรียญหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม


เหรียญหลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่

    แต่พอมาถึงทุกวันนี้ ชุดเบญจภาคีเหรียญ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง จากเดิมไปบ้าง คือ เหรียญหลวงพ่อกลั่น จากอันดับสอง เลื่อนขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่ง แล้วเหรียญหลวงปู่เอี่ยม ก็ลดลงมาอยู่อันดับสอง และเหรียญหลวงพ่อพุ่ม ซึ่งนับวันจะหาของไม่ค่อยมี จึงได้มีการเอาเหรียญหลวงปู่ขาว วัดหลักสี่ เหรียญพระครูบาศรีวิชัย วัดบ้านปาง หรือเหรียญหลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม เหรียญใดเหรียญหนึ่งเข้าไปแทน แต่ก็แน่นด้วยพุทธคุณเช่นกันครับ


-------------
ที่มา : http://www.amulet2u.com/ben03.htm

618
    
หลักสูตรวุฒิบัตรจุฬาฯ "การบริหารความเสี่ยงสำหรับผู้บริหาร" รุ่นที่ 10
 
ในปัจจุบัน กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ดำเนินอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อม หรือสภาวการณ์ที่ไม่แน่นอน ซึ่งความไม่แน่นอนทางกิจกรรมนี้เองที่เป็นเสมือนดาบสองคม กล่าวคือ อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวก ซึ่งถือเป็นโอกาส (Opportunity) ต่อธุรกิจ หรือในเชิงลบซึ่งถือเป็นความเสี่ยง (Risk) ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดจากการรวมตัวกันของข้อจำกัด (Constraint) และความไม่แน่นอน (Uncertainty)

อย่างไรก็ดี “ความเสี่ยง” มีความแตกต่างกันไปตามมุมมองตามความเชี่ยวชาญและอาชีพของผู้ให้คำจำกัดความ ซึ่งหมายความว่า นักธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ นักสถิติ นักการเงิน วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย ต่างมีมุมมองและให้ความหมายของคำว่า “ความเสี่ยง” แตกต่างกันไป  

ดังนั้น ผู้บริหารจึงจำเป็นต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ และสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อการกำหนดกลยุทธ์องค์กร หรือกำหนดระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมที่องค์กรสามารถยอมรับได้ นอกจากนั้น การบริหารความเสี่ยงขององค์กรจำเป็นจะต้องทำควบคู่กับการกำกับดูแลและตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยเหตุนี้ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้จัดอบรมหลักสูตร “การบริหารความเสี่ยงสำหรับผู้บริหาร” เพื่อตอบสนองความต้องการและก่อเกิดประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ผู้เข้าอบรม

บุคคลที่เหมาะสมจะเข้าร่วมการอบรมได้แก่ เจ้าของกิจการและนักธุรกิจ ผู้จัดการทุกระดับ ผู้บริหารโครงการ หรือผู้รับผิดชอบด้านการเงิน

วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึง ความหมายของความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยง และเครื่องมือที่ใช้ในการบริหารความเสี่ยง
2. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึง วิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินความเสี่ยงทางการเงิน รวมทั้งการกำหนดกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน
3. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเข้าใจถึงความสำคัญ และหลักการบริหารความเสี่ยงของโครงการลงทุน รวมทั้งความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านกลยุทธ์ (Strategic Risk)
4. เพื่อให้ผู้เข้าอบรมเรียนรู้ถึงเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจเมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่าง ๆ

เนื้อหาการอบรม (Course Outline) :
โครงการของหลักสูตร
1. หลักการบริหารความเสี่ยงองค์กร (Enterprise of Risk Management)
2. การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน (Financial Risk Management)
3. การบริหารความเสี่ยงโครงการ (Project Risk Management)
4. การตัดสินใจภายใต้ความไม่แน่นอน (Making Decision Under Uncertainty)
5. การบริหารเชิงกลยุทธ์ และความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ (Strategic Risk Management)
6. การบริหารในภาวะวิกฤต (Corporate Crisis Management)
7. หลักธรรมาภิบาลกับการบริหารความเสี่ยง (Corporate Governance)
8. การอบรมเชิงปฏิบัติการ (Risk Management Workshop)

การประเมินผล
ผู้ที่ผ่านการอบรมจะต้องเข้าอบรมตามชั่วโมงที่กำหนดไม่น้อยกว่า 80% ของเวลาเรียนที่กำหนด จึงจะผ่านเกณฑ์การรับุฒิบัตรจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วิทยากร :
1. ดร.ทรรศนะ บุญขวัญ
คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

2. ผู้ศาสตราจารช่วยศาสตราจารย์ ดร.โสภณ ขันติอาคม
ผู้อำนวยการ ศูนย์บริการวิชาการและการศึกษาต่อเนื่อง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ

3. ผู้ช่วยย์ ดร.สรายุทธ นาทะพันธ์
อาจารย์ประจำ คณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล

4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประเสริฐ อัครประถมพงศ์
อาจารย์ประจำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ

5. รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์
ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ระดับประเทศ

สถานที่อบรม (Venue) :
ชั้น 2 ห้อง 209 คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันและเวลาอบรม (Date and Time) :
วันที่ 28 กันยายน - วันที่ 15 ตุลาคม 2554, พุธ , พฤหัส เวลา 18.00 - 21.00 น. เสาร์ เวลา 9.00 - 16.00 น.

ค่าธรรมเนียม (Fee) :
#14,900# (ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่เพิ่มและไม่มีหัก ณ ที่จ่าย) (ราคานี้ไม่รวม vat 7%)
ดาวน์โหลดเอกสาร (Download): www.econ.chula.ac.th
สอบถามรายละเอียด (Contact) :
ศูนย์บริการวิชาการและการศึกษาต่อเนื่อง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


ติดต่อ :
โทรศัพท์ : 02-559-3638, 02-218-6237
Email : cu_learn@yahoo.com
Website : http://www.econ.chula.ac.th

619
ปลุกพลังบวก Ignite TVThai - หนูดี - วานิษา เรซ




620

เชิญเข้าอบรม
  "ปั้นแบรนด์ให้รวยด้วย Facebook"
โดยวิทยากร ดร. ภิเษก ชัยนิรันดร์
ผู้เขียนหนังสือ “ปั้นแบรนด์ให้รวยด้วย Facebook”, “การตลาดแนวใหม่ผ่าน Social Media” และ “Marketing Click : กลเม็ดเคล็ดลับการตลาดออนไลน์”

"จุดประกายแนวคิดและกลยุทธ์ทางการตลาดเด็ดๆ ที่สามารถนำไปใช้กับ Social Media โดยเฉพาะ Facebook ได้อย่างได้ผล ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นได้ในที่สุด"

"คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไม Facebook Page หรือ Social Media อื่นๆ ที่คุณหรือองค์กรของคุณสร้างขึ้น ถึงได้เงียบเหงา หรือไม่โดนใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายซักที หลักสูตรอบรมนี้มีคำตอบให้กับคุณ"

      เนื่องด้วย การขยายตัวอย่างรวดเร็วของ Social Media โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Facebook ทำให้หลายๆ กิจการเห็นเป็นโอกาสในการนำมาใช้ในการตลาด โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ (Branding) ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า หรือแม้กระทั่งทำหน้าที่เสมือนเป็น Call Center อย่างไรก็ตามท่วงทำนองของการใช้สื่อใหม่นี้ ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น ทั้งนี้เนื่องจาก บทสนทนา เนื้อหา และกิจกรรมทางการตลาด กลับซ้ำๆ จนน่าเบื่อ ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากความไม่เข้าใจในธรรมชาติของ Social Media ขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการสร้างแบรนด์ รวมไปถึงยังยึดติดกับท่วงทำนองของการใช้สื่อในแบบเดิมๆ อย่าง โทรทัศน์ วิทยุ หรือนิตยสารต่างๆ ซึ่งอันที่จริง มีความแตกต่างจาก Social Media อย่างพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ  

      ด้วยปัญหาดังกล่าวข้างต้น เราจึงเห็นว่า กิจการยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงธรรมชาติของ Social Media ในภาพรวม ยังไม่เข้าใจถึงความสามารถในการนำไปใช้ รวมถึงวิธีการนำไปใช้ นอกจากนี้ยังไม่มีทิศทางว่าจะใช้ Social Media โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Facebook เพื่อให้เสริมสร้างแบรนด์ของตนให้แข็งแกร่งได้อย่างไร ทั้งนี้จะต้องเชื่อมโยงไปกับแผนการตลาดในองค์รวมทั้งหมด โดยคิดว่า Social Media เป็นหนึ่งในช่องทาง (Touch Point) ที่สามารถมอบประสบการณ์ต่างๆ ที่เป็นคุณค่าของแบรนด์ (Brand Value) เพื่อให้แบรนด์ของเราเกิดความแตกต่าง (Brand Differentiation) ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ คลิปวิดีโอ รวมไปถึงลักษณะของความเป็นสังคม เพื่อให้สามารถใช้ Social Media ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นในที่สุด

หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
- เจ้าของธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ กลาง และขนาดเล็ก
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ที่รับผิดชอบด้าน Social Media หรือที่กำลังคิดจะนำมาใช้
- ผู้ที่ดูแลด้าน Social Media โดยเฉพาะผู้ที่ทำ Facebook Page ภายในองค์กรต่างๆ
- ผู้ที่ทำงานกับ Media Agency ต่างๆ ที่สนใจในการให้บริการด้าน Social Media
- หน่วยงานภาครัฐที่สนใจใช้ Social Media ในการประชาสัมพันธ์และโฆษณา
- อาจารย์ทางด้านการตลาด ที่พร้อมจะเปิดรับความรู้ใหม่ๆ
- นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ที่สนใจเรียนรู้การนำ Facebook ไปใช้ทางการตลาด

พื้นฐานของผู้เข้าอบรม
ผู้เข้าอบรมควรมีพื้นฐานในการใช้งาน Facebook หรือ Social Media อื่นๆ มาบ้างแล้ว

วัตถุประสงค์ของการอบรม
- เพื่อให้เข้าใจถึงความหมาย Social Media และความแตกต่างไปจากสื่อแบบเดิม
- เพื่อทราบถึงวิธีการใช้ Social Media เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการตลาดต่างๆ
- เพื่อเรียนรู้การเริ่มต้นและกำหนดตัวตนใน Social Media
- เพื่อให้ทราบถึงรายละเอียดของการใช้ Social Media ในแต่ละประเภท ไม่ว่าจะเป็น Blog,  Twitter, Forum, YouTube และเน้นหนักการใช้ Facebook เพื่อการสร้างแบรนด์
- เพื่อให้เข้าใจความหมายของคำว่า Brand และกระบวนการในการกำหนด Brand Positioning, Brand Value และ Brand Personality
- เพื่อเรียนรู้วิธีการนำ Facebook Page มาใช้เพื่อการสร้าง Brand ผ่านแนวคิดการตลาดเชิงประสบการณ์
- เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปเพื่อเป็นหลักคิดในการสร้าง เนื้อหา กิจกรรมทางการตลาด และบทสนทนาใน Facebook Page
- เรียนรู้การปฏิบัติจริงผ่านการทำ Work Shop

หมายเหตุ : การเรียนจะเน้นอิงกรณีศึกษาต่างๆ ทั้งไทยและต่างประเทศตลอดการอบรม ทำให้เข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเน้นการนำ Facebook ไปใช้เพื่อการตลาด พร้อมด้วยแนวคิดและกลยุทธ์ทางการตลาดเด็ดๆ ที่สามารถนำไปใช้กับ Social Media โดยเฉพาะ Facebook ได้อย่างได้ผล (ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการอบรม)
รายละเอียดและหัวข้อหลักในการอบรม

การอบรมนี้ใช้เวลา 6 ชั่วโมง โดยแบ่งเนื้อหาออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ

ภาคเช้า
จะเน้นการแนะนำถึงภาพกว้างๆ ของ Social Media (3 ชั่วโมง) ดังมีหัวข้อต่อไปนี้
- ความแตกต่างระหว่างสื่อแบบเดิมและ Social Media
- ความสำคัญของปัจเจกชน
- ความหมายของ Social Media
- ประเภทของ Social Media
- เป้าหมายของการใช้ทางการตลาด
- การเริ่มต้นในการใช้ Social Media
- การกำหนดตัวตนใน Social Media
- Blogger – Marketing Influencer  
- Forum  
- Twitter คืออะไร และลักษณะของการใช้ Twitter ที่ดี และไม่ดี

ภาคบ่าย
จะลงลึกในเรื่อง “ปั้นแบรนด์ให้รวยด้วย Facebook” (3 ชั่วโมง) ดังมีหัวข้อต่อไปนี้
- การสร้างและองค์ประกอบของ Facebook Page
- สถานการณ์และรูปแบบของการใช้ Facebook ในปัจจุบัน
- ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการตลาดเชิงประสบการณ์ และการปรับใช้กับ Facebook
- Brand Personality, Brand Positioning และ Brand Value
- BETTER Model เครื่องมือช่วยทำ Facebook Marketing
- เรียนรู้การใช้ Facebook Page จากกรณีศึกษาต่างๆ
- ทำ Work Shop แบ่งกลุ่มระดมความคิด  

วิทยากร : ดร. ภิเษก ชัยนิรันดร์
- อาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย สาขาการเงิน สอนวิชาการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- คอลัมนิสต์ “Marketing Click” ในนิตยสารผู้จัดการ
- ผู้เขียนหนังสือ “ปั้นแบรนด์ให้รวยด้วย Facebook”, “การตลาดแนวใหม่ผ่าน Social Media” และ “Marketing Click : กลเม็ดเคล็ดลับการตลาดออนไลน์”
- วิทยากร “Social Media Marketing แค่ของเล่นไฮเทคหรือจะพลิกโฉมการตลาด” จัดโดย วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล, วิทยากรรับเชิญรายการ “สุรนันท์วันนี้” ช่อง TNN2, รายการ “I-Innovation” ช่องเถ้าแก่ ASTV, วิทยากรงาน THAILAND SME EXPO 2010 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นต้น

ค่าสมัครอบรม
2,900 บาท (ยังไม่รวม vat) สมาชิก SE-ED Card ลด 5%
(Coffee Break เช้าและบ่าย)

วันเวลาและสถานที่เปิดอบรม
วันที่เปิดอบรม :
รุ่นที่ 1 - วันที่ 12 มีนาคม 2554
รุ่นที่ 2 - วันที่ 9 เมษายน 2554
รุ่นที่ 3 - วันที่ 7 พฤษภาคม 2554
รุ่นที่ 4 - วันที่ 4 มิถุนายน 2554
รุ่นที่ 5 - วันที่ 2 กรกฎาคม 2554
รุ่นที่ 6 - วันที่ 6 สิงหาคม 2554
รุ่นที่ 7 - วันที่ 3 กันยายน 2554
รุ่นที่ 8 - วันที่ 1 ตุลาคม 2554
รุ่นที่ 9 - วันที่ 5 พฤศจิกายน 2554
รุ่นที่ 10 - วันที่ 3 ธันวาคม 2554

ระยะเวลาอบรม : 1 วัน เวลา 9.00 - 16.00 น.
สถานที่อบรม : ศูนย์ SE-ED Learning Center  อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 2  สามย่าน (ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่าน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเข้าอบรมได้ที่
SE-ED Learning Center
โทร : 02-657-6003-4  โทรสาร : 02-657-6030  อีเมล : slc@se-ed.com  
เว็บไซต์ : www.se-edlearning.com

621
Politics News / โครงการบ้านหลังแรก
« เมื่อ: กันยายน 25, 2011, 02:09:27 AM »
โครงการบ้านหลังแรก
อัปโหลดโดย TheSpokesmandp เมื่อ 20 ก.ย. 2011




622
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ / JVC Everio to Mac Guide
« เมื่อ: กันยายน 25, 2011, 01:02:53 AM »


JVC Everio to Mac Guide
อัปโหลดโดย TheJVCMan เมื่อ 8 ม.ค. 2008
A quick guide on how to connect your JVC Everio to a Mac.

***Please note this guide does not cover the HD versions***


link: http://media.camcorder.jvc.com/movies/iMovie.mov

623


Uploaded by mykeawja on Sep 22, 2011

วีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทย แบบที่ ๑ ชื่อ "ทุกเชื้อชาติร่วมใจ ยืนตรงเคารพธงชาติ" จัดทำโดย สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดเริ่มใช้เผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๔


วีดิทัศน์ เพลงชาติแบบใหม่ เพลงสรรเสริญพระบารมีแบบใหม่ เริ่ม 1 ตุลาคมนี้

624
General Discussion / เพาะกล้า นาโยน
« เมื่อ: กันยายน 22, 2011, 08:13:17 PM »


แนะนำวิธีเตรียมพื้นที่, เตรียมแผงเพาะกล้า, ส่วนผสมในดินเพาะ และขั้นตอนวิธีเพาะวิธีถอนกล้า โดยคุณต้นเสียงธรรม คณะรินทร์ ผอ.ศูนย์ฝึกอบรมเกษตรกรชุมชนบุญนิยมดอยรายปลายฟ้า จ.เชียงราย โทร.053-700 504

วิธีเพาะกล้านาโยนที่ดอยรายปลายฟ้า  เพาะกล้านาโยน  

625
ข้อมูลคืนเงินรถยนต์คันแรก - รถยนต์นั่งที่มีกระบะ (DOUBLE CAB)
ที่ ประเภทรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่น รหัสรุ่น
เบื้องต้น ณ วันที่ 19 กันยายน 2554
Link: กรมสรรพสามิต

การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก

คำแนะนำสำหรับประชาชนในการคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก    รายละเอียด คลิกที่นี่

ดาวน์โหลด แบบฟอร์ม คำขอคืนเงินและเงื่อนไขสาหรับรถยนต์คันแรก  คลิกที่นี่

    ดาวน์โหลด แบบฟอร์ม หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี
    คลิกที่นี่

    ตัวอย่าง แบบฟอร์ม หนังสือแจ้งผลการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต
    คลิกที่นี่

    ดาวน์โหลดข้อมูลการคืนเงินรถยนต์คันแรก (PDF File)
    รถยนต์นั่ง (19 กันยายน 2554) คลิกที่นี่
    รถยนต์นั่งที่มีกระบะ(Double Cab) (19 กันยายน 2554) คลิกที่นี่
    รถยนต์กระบะ(Pick Up) (19 กันยายน 2554) คลิกที่นี่


---------
ที่มา: กรมสรรพสามิต
สายด่วนสรรพสามิต 1713

626


วิธีลด Noise ในภาพด้วย Photoshop CS5 ใน Camera RAW
+ http://bit.ly/nVJfsd

Noise in Digital Camera
+ http://bit.ly/qiDVXl

627


อัปโหลดโดย beartaihitech เมื่อ 12 ต.ค. 2009
รายงานพิเศษ ตอน สินค้าลิขสิทธิ์ ปัญหาที่เถียงไม่จบ จะพาไปตีแผ่ถึงข้อดี ของการใช้สินค้าลิขสิทธิ์ และข้อเสียของการใช้สินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ แบบถึงแก่นกันเลยทีเดียว

628




ประวัติพระเครื่อง ชุด พระเบญจภาคี (วีดีโอ)
อัปโหลดโดย Youtube: alinodreamworld เมื่อ 28 มิ.ย. 2553

พระสมเด็จฯ, พระรอด, พระซุ้มกอ, พระนางพญา, พระผงสุพรรณ
สารคดี อมตะพระเครื่อง เบญจภาคี
ลิขสิทธิ์และจัดจำหน่ายโดย  GM Discovery

629
Newsweek’s The Daily Beast published an interesting infographic on Steve Jobs and his supposed playbook for managing the creative process at Apple.

The “10 Commandments of Steve” are:

-    Go for perfect
-    Tap the experts
-    Be ruthless
-    Shun focus groups
-    Never stop studying
-    Simplify
-    Keep your secrets
-    Keep teams small
-    Use more carrot than stick
-    Prototype to the extreme


The 10 Commandments of Steve
More than anything else, Jobs's genius is in managing the creative process. Here's his playbook. By Leander Kahney.

(The Daily Beast) เหนือสิ่งอื่นใด ความอัจฉริยะของจ๊อบส์ คือการจัดการสิ่งต่างๆ อย่างสร้างสรรค์ เหล่านี้เป็นบัญญัติ 10 ประการอันเป็นยุทธศาสตร์ในทางธุรกิจของเขา


1. ต้องเพอร์เฟค (Go for perfect) จ๊อบส์เป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดมาก คืนก่อนที่ไอพอดจะออกสู่ตลาด เขาไม่นอนทั้งคืนเพื่อทดสอบการเสียบสาย headphone กับตัวเครื่อง เพราะเขารู้สึกว่ามันยังไม่คลิกเท่าที่ควร


2. ความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ (Tap the experts) จ๊อบส์จ้างคนที่เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง มาทำงานในด้านนั้นๆ
การยอมรับในความเชี่ยวชาญของผู้อื่น Jobs ยอมว่าจ้างนักสถาปัตยกรรมชื่อดังเช่น  I. M. Pei เพื่อมาออกแบบโลโก้ของ NeXT และว่าจ้าง Gap’s Mickey Drexler มาดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารของ Apple ก่อนที่จะนำเสนอการทำช่องทางจำหน่ายปลีก retail chain ของบริษัท


3. เป็นคนใจถึง Jobs จะภูมิใจที่สามารถมีสินค้าใหม่ออกไปฆ่าสินค้าที่เขาแม้ว่าเพิ่งนำออกสู่ตลาด เขาทำงานอย่างหนักกับ Palm Pilot clone และเพียงเพื่อต้องทำลายทิ้งเมื่อเขาตระหนักว่า cell phones สามารถเป็นสุริยคลาสบดบัง PDAs ไปได้แล้ว และนั้นเป็นแรงกดดันให้ทีมวิศวกรต้องมาพัฒนา the iPod


4. หลบเลี่ยงกลุ่มคน (Shun focus groups - มองหากลุ่มที่เป็นเป้าหมาย) คำกล่าวที่โด่งดังของจ๊อบส์คือ ผู้คนมักไม่รู้ว่าพวกเขาต้องการอะไร จนกว่าคุณจะแสดงให้พวกเขาดู ดังนั้นเขาจึงทดสอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วยตนเองโดยการนำมันกลับไปที่บ้านและทดลองผลิตภัณฑ์เป็นเวลาหลายเดือน


5. อย่าหยุดการเรียนรู้ (Never stop studying) การศึกษาไม่มีวันตาย เมื่อออกแบบโบร์ชัวร์ของ Apple ในยุคแรกๆ เขาศึกษาดูในรายละเอียดปลีกย่อยใน โบร์ชัวร์ของ Sony ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของตัวอักษร การวาง layout และความหนาของกระดาษ ใน case การทำงานกับเครื่อง Mac เครื่องแรก Jobs เดินรอบตัวรถยนต์ในลานจอดรถของบริษัทเพื่อศึกษาการออกแบบตัวถังรถของรถที่ผลิตจากประเทศเยอรมันและประเทศอิตาลี


6. เรียบง่ายเข้าไว้ (Simplify) หลักปรัชญาการดีไซน์รูปแบบผลิตภัณฑ์ของจ๊อบส์คือ เรียบง่ายเข้าไว้ ดังนั้นไอพอดจึงมีรูปแบบที่ไม่มีปุ่มใดๆ ให้เกะกะสายตา รวมทั้งปุ่มเปิด-ปิด ไอพอดจึงใช้ระบบ click wheel แทน


7. จงรักษาความลับ (Keep your secrets) ไม่มีใครในแอปเปิ้ลคุยกัน ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของความจำเป็นที่จะต้องรับรู้เป็นหลัก บริษัททำงานกันโดยแบ่งแยกหน่วยงานย่อย สิ่งนี้ทำให้ผู้คนตื่นเต้นและให้ความสนใจกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่ของเขาในทุกๆ ครั้ง


8. สร้างทีมให้เล็กเข้าไว้ (Keep teams small) ทีมดั้งเดิมของการผลิต Macintosh คือ 100 คน ไม่มาก และไม่น้อยไปกว่านี้ ถ้ามีคนที่ 101 ถูกจ้าง จะต้องมีใครบางคนที่ออกไป จ๊อบส์ให้เหตุผลว่าเขาสามารถจำชื่อของคนได้เพียง 100 คน เท่านั้น


9. ใช้ไม้อ่อนให้มากกว่าไม้แข็ง (Use more carrot than stick) จ๊อบส์ก็เป็นคนที่ขี้กลัวอยู่เหมือนกัน แต่จุดเด่นของเขาคือมีเป็นนักกระตุ้นที่มีพลังมาก ความกระตือรือล้นที่มากมายของเขาเป็นเหตุผลเบื้องต้นที่ทำให้ทีม Mac สามารถทำงานได้สัปดาห์ละ 90 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 ปี


10. สร้างต้นแบบให้เจ๋งสุดๆ (Prototype to the extreme) ทุกสิ่งที่จ๊อบส์สร้างขึ้นเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่มีความละเอียดมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ แม้กระทั่งร้านค้าปลีกของแอปเปิ้ล สถาปนิคและนักออกแบบทั้งหลายใช้เวลาเป็นปีเพื่อที่จะสร้างร้านต้นแบบของแอปเปิ้ลที่อยู่ใกล้ๆ กับบริษัทแอปเปิ้ลสำนักงานใหญ่เพียงเพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้จ๊อบส์ได้เริ่มต้นโปรเจคของเขา

อ่านเพิ่มที่ เดอะเดลีบีสท์

Posted by Natchanaht 06/09/11 – Edited by Wichuda
Source:
- http://bit.ly/nsCNPN  
- http://bit.ly/pIF5Hf

630
Politics News / รายชื่อ กสทช. 11 คน
« เมื่อ: กันยายน 05, 2011, 09:46:56 PM »


สำหรับบุคคลที่วุฒิสภาลงคะแนนเลือกเป็น กสทช.11 คน ประกอบด้วย

ด้านกิจการกระจายเสียง
1. พล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี
ได้ 73 คะแนน เป็นนายทหารรุ่น ตท.6 รุ่นเดียวกับ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี และ พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง ส.ว.สรรหา ในอดีตเคยเป็น เสธ.ทอ.ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร สังกัดสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ(องค์การมหาชน)

ด้านกิจการโทรคมนาคม
2. พ.อ.นที ศุกลรัตน์
ได้ 112 คะแนน อดีต กทช. ปัจจุบันเป็นรักษาการ กสทช.อดีตรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
3. พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ ได้ 118 คะแนน นายทหารฝ่ายกิจการโทรคมนาคม สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม กระทรวงกลาโหม

ด้านกฎหมาย 2 คน คือ
4. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้ 109 คะแนน และ
5. พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ งามสง่า อดีต ผกก.สภ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ได้ 67 คะแนน
      
ด้านกิจการโทรทัศน์
6. พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ 62 คะแนน

ด้านเศรษฐศาสตร์ 2 คน คือ
7. นายประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการวิชาการ สถาบันพระปกเกล้า อดีตผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (เศรษศาสตร์ ประจำ กทช.) ได้ 110 คะแนน
8. นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ผอ.ศูนย์คอมพิวเตอร์ และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ 58 คะแนน

ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค หรือการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ในส่วนของด้านกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ คือ
9. น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ ได้ 95 คะแนน

ด้านกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม คือ
10. นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผอ.สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม สำนักงาน กสทช.ได้ 78 คะแนน

ด้านผู้มีผลงาน มีความเชี่ยวชาญประสบการณ์ด้านการศึกษา วัฒนธรรม หรือการพัฒนาสังคม คือ
11. พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ 72 คะแนน
      

-------------
เปิดปูมประวัติอรหันต์ กสทช. 11 คน / http://bit.ly/r3VuwY
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

หน้า: 1 ... 39 40 41 [42] 43 44 45 ... 117