Multi Smart Training
News Reporter => Politics News => ข้อความที่เริ่มโดย: กองบรรณาธิการ ที่ พฤษภาคม 04, 2010, 12:26:01 PM
-
โดยนายอภิสิทธิ์อธิบายว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นมีหลายสาเหตุ และเป็นการสะสมปัญหามาหลายปี บางเรื่องเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง บางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ สังคม และเรื่องอื่นๆ ทำให้ความขัดแย้งเกิดความแตกแยกร้าวลึกเป็นลำดับ ซึ่งคำตอบที่เสนอจะช่วยแก้ไข และเกิดกระบวนการสร้างความปรองดองขึ้นมา ซึ่งเป็นการรับฟังทั้งจากกลุ่มผู้ชุมนุม นักวิชาการ และประชาชน โดยมีทั้งสิ้น 5 ข้อคือ
1.ประเทศไทยโชคดีที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่หล่อรวมพี่น้องคนไทย แต่น่าเสียดายที่ในระยะหลังมีคนจำนวนหนึ่งทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ถูกดึงเข้ามาในการเมือง เราจึงต้องมีภาระหน้าที่ช่วยไม่ให้สถาบันถูกดึงลงมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในปัจจุบัน ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำงานเพื่อเทิดทูนเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ได้ทรงอุทิศพระวรกาย เวลาเพื่อช่วยเหลือประชาชน จึงอยากเชิญชวนมาทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบัน ช่วยกันดูแลไม่ให้สื่อ หรือใครมาจาบจ้วงพระกษัตริย์และถูกดึงมาสู่ความขัดแย้งทางการเมือง
2.ถือเป็นหัวใจ คือ การปฏิรูปประเทศ ซึ่งความขัดแย้งอาจถูกมองเป็นเรื่องการเมือง แต่ก็มีรากฐานมาจากความไม่เป็นธรรมทางสังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งพี่น้องที่มาชุมนุม และไม่ได้มาได้สัมผัสความไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะผู้มาชุมนุมที่ถูกทอดทิ้งไม่ได้รับโอกาส และหลายครั้งถูกรังแกจากผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ และหากปล่อยไว้อาจถูกสร้างความขัดแย้ง ไม่ใช่เฉพาะทางการเมือง แต่จะขยายวงกว้างมาก ซึ่งการแก้ไขจะปล่อยให้เหมือนในอดีตที่แก้ไขเพียงบางจุด และไม่สามารถแก้ทั้งโครงสร้างได้ วันนี้จึงต้องแก้ด้วยระบบสวัสดิการทั้งการศึกษา สาธารณสุข และการมีรายได้ รวมไปถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกกระทำเป็นพิเศษ หรือคนยากจนจะได้รับการดูแลเป็นระบบบ กระบวนการปรองดองหรือปฏิรูปประเทศจะดึงเอาทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน โดยมีรูปธรรมเป็นระบบทั้งสวัสดิการ และทุกรัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้สังคมเกิดขึ้นชัดเจน
3.สังคมปัจจุบันเป็นสังคมข้อมูลข่าวสาร แต่ในระยะหลังเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้า อำนาจของสื่อก็ได้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่อาศัยช่องโหว่ช่องว่าง ทั้งอินเทอร์เน็ต ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี วิทยุชุมชน แม้แต่สถานีรัฐก็ถูกกล่าวหาเป็นเครื่องมือของรัฐไปสู่ความขัดแย้ง ซึ่งยืนยันว่าสื่อยังมีสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องมีกลไกลอิสระที่มีการดูแล ต้องไม่เสนอมุ่งความขัดแย้ง เกลียดชัง และนำไปสู่การใช้ความรุนแรงต่อไป ซึ่งจะทำให้เกิดความปรองดองสงบสุขรวดเร็ว
4.การเกิดเหตุความรุนแรงสูญเสียที่นำไปสู่ความแตกแยก ทั้งเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ทั้งเหตุการณ์ 22 เม.ย. ที่สีมลม เหตุการณ์ 28 เม.ย. ที่ดอนเมือง และเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ แม้ไม่สูญเสียที่ รพ.จุฬาฯ ทุกเหตุการณ์ต้องตรวจสอบเพื่อชำระสะสางในเหตุการณ์เหล่านั้น ซึ่งจะมีคณะกรรมการอิสระเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ความจริงแก่สังคม เพราะสังคมจะสงบสุขได้ก็เพราะสังคมได้รับรู้ข้อเท็จจริง
5.เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการเมืองโดยตรง แม้ถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนเล็กๆ แต่ความขัดแย้งก็เกิดขึ้นในเวลา 4-5 ปี ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมหลายด้าน รวมถึงเรื่องกติกา เช่น รัฐธรรมนูญ กฎหมายบางฉบับ การเพิกถอนสิทธิเกี่ยวกับการเมือง ซึ่งถึงเวลาที่ต้องนำสิ่งเหล่านี้มาวางเพื่อให้มีกลไกระดมความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งจะครอบคลุมถึงประเด็นแก้ไข รธน. รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองที่เกิน 5 คน เพื่อให้เกิดความรู้สึกไม่ยอมรับทางการเมืองหมดไป
ที่มา: นสพ.ไทยโพสต์
http://www.thaipost.net/news/040510/21714 (http://www.thaipost.net/news/040510/21714)
-
#####################
"ข้อเสนอทั้ง 5 ส่วนเป็นองค์ประกอบการปรองดอง แน่นอนกระบวนการไม่อาจบรรลุเป้าหมาย หากไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ซึ่งหากทุกฝ่ายเข้าร่วม ทุกองค์กรทำหน้าที่เต็มที่ ไม่มีการขัดขวาง ปั่นป่วนให้เกิดปะทะกัน มั่นใจว่าเราจะใช้เวลาไม่นานนักก็จะนำความปรองดองมาสู่สังคมได้ รัฐบาลก็พร้อมจัดเลือกตั้งให้มีโอกาสตัดสินใจทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งเมื่อเกิดกระบวนการปรองดอง ก็พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งได้ในวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลพร้อมดำเนินการ แต่หากบ้านเมืองไม่สงบ ก็ยังมุ่งมั่นที่จะทำใน 5 ด้านต่อไป แต่กระบวนการก็จะขลุกขลัก ซึ่งไม่สามารถตอบได้ว่ากระบวนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้เมื่อไร่ จึงกราบเรียนประชาชนพิจารณาข้อเสนอกระบวนการปรองดองที่ให้รับรู้วันนี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว
#####################
ที่มา: http://www.thaipost.net/news/040510/21714 (http://www.thaipost.net/news/040510/21714)